ทองคำ บริสุทธิ์ ของแท้ ปลอม แตกต่างกันอย่างไร เช็คด้วยตัวเองแบบไหนได้บ้าง
ในช่วงนี้หรือช่วงไหนๆ ก็ต้องยอมรับว่า ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด และเป็นทรัพยากรโลกที่มีอย่างจำกัด ไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ ยิ่งความต้องการสูง ปริมาณมีน้อย แปลว่ามูลค่าต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน และนั่นเป็นช่องทางที่เหล่ามิจฉาชีพเห็น จนทำทองปลอมมาหลอกขายให้กับผู้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งก็เกิดขึ้นมาโดยตลอดและออกข่าวกันให้เห็นบ่อยๆ เมื่อเราต้องซื้อขายทองด้วยตนเอง จะเช็คได้อย่างไร มีวิธีการแบบไหนบ้าง เรามีคำตอบ
ทำความรู้จักกับ ทองคำ
ทองคำ แร่โลหะชนิดหนึ่ง ที่สวยงาม หายาก และเป็นทรัพยากรบนโลกที่มีอยู่อย่างจำกัด ด้วยตัวของทองคำที่มีสีเหลืองทำให้รู้สึกถึงคุณค่าและความหรูหรา และจากคุณสมบัติเฉพาะของทองคำที่สามารถนำมาใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ กำไร แหวน และยังเป็นวัตถุที่นิยมนำมาแปลงมูลค่า หรือค่าเงินทั่วโลก ราคาซื้อขายทองคำจึงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทุกยุคทุกสมัย
ทองคำ ถูกนำมาใช้ในกับการค้าขายแลกเปลี่ยนเป็นเวลานับกว่า 100 ปีแล้ว ด้วยความหายาก คงทน สวยงาม และยังตัดแบ่งส่วนได้ง่าย ทองจึงมีมูลค่าสูงและกลายเป็นที่ต้องการมากจนได้ถูกกำหนดมาตรฐานเงินตราที่อ้างอิงทองคำด้วย ซึ่งเรียกว่า มาตรฐานทองคำ (Gold Standard) ปัจจุบันหลายรัฐบาลในประเทศ รวมถึงสถาบันการเงินต่างๆ คนทั่วไป ได้ลงทุนเก็งกำไรและกักตุนทองคำอย่างแพร่หลาย ทั้งทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ เพื่อใช้ในการเป็นหลักประกันทางการเงินเมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ
ทองคำแท้
ทองคำแท้ คือ ทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง มีธาตุอื่นๆ ปะปนอยู่ในขั้นตอนการผลิตที่ไม่เกิน 3.5% เท่านั้น ปกติจะอยู่ที่ 96.5% (23k) และ 99.9% (24k) ทองคำแท้จะแข็งแรงต่ำ เพราะคุณสมบัติแร่ทองคำจะนิ่มและบุบง่าย แต่มูลค่าในการซื้อขายจะสูงกว่าราคาทองคำทั่วไปตามท้องตลาด
ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ
ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ หรือที่เรียกกันว่า ทองเค ทองเขียว คือ ทองที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 96.5% โดยจะมีธาตุอื่นที่ผสมเกินกว่า 3.5% ทำให้ทนทานแข็งแรงมากกว่าทองคำแท้ สามารถออกแบบรูปร่างและดีไซน์ได้มากกว่า หรือตกแต่งสีได้ ราคาจะไม่สูงเหมือนกับทองคำแท้ เพราะถูกเจือจางความบริสุทธ์ของทองที่ลดลง แต่สามารถนำไปขายหรือจำนำได้ตามปกติ
ทองคำปลอม
ทองคำปลอม เป็นทองที่ไม่ได้มีส่วนผสมของทองคำแท้อยู่แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว แต่บางที่อาจใช้โลหะอื่นๆ ชุบทองเพียงภายนอกเท่านั้น แต่ภายในมักเป็นทองเหลืองอลูมิเนียม ทองคำประเภทนี้มีขายตามท้องตลาด และมีราคาถูก แต่ไม่สามารถนำกลับมาจำนำหรือขายได้เหมือนทองแท้
วิธีตรวจสอบทองคำแท้ด้วยตัวเอง
หากคุณเป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการเช็คทองคำแท้มาก่อน การซื้อขายทองคำนั้นต้องระมัดระวังให้ดี เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพที่เข้ามาหลอกขายทองปลอมได้ ดังนั้นหากจะซื้อขายทองคำแนะนำว่าให้ซื้อขายผ่านห้างทองที่เชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งมีให้เลือกซื้อเยอะมากในปัจจุบัน และหลีกเลี่ยงการซื้อขายส่วนตัวแม้จะเป็นคนรู้จักก็ตาม เพราะหากเช็คไม่แม่นพอก็อาจเสียรู้ได้
การซื้อทองจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือไว้ใจได้ ผู้ซื้อยังสามารถขอใบรับประกันทองคำแท้ได้จากทางร้านได้ทันที เพื่อใช้ในการยืนยันทองคำของคุณได้ ซึ่งสามารถนำไปขายต่อหรือจำนำได้ง่ายเพียงยื่นใบรับประกัน แต่หากซื้อมาจากแหล่งที่มาอื่นๆ ที่ไม่มีการออกใบรับประกันจะทำให้ขายยาก เพราะต้องตรวจสอบละเอียดกว่า ซึ่งมีวิธีในการพิสูจน์ทองคำด้วยตัวเอง ดังนี้
การสำรวจตราประทับ
สมาคมค้าทองคำจะระบุให้มีการตีตราของร้านหรือแหล่งผลิตเอาไว้ชัดเจน เพื่อเป็นตัวการันตีถึงแหล่งที่มา รวมถึงการแจ้งตัวเลขความบริสุทธิ์ของทองคำเอาไว้ด้วย และด้วยความที่ทองคำแท้ค่อนข้างนิ่มจึงสามารถปั๊มตราประทับได้อย่างชัดเจน และอยากที่จะลอกเลียนแบบ
แม่เหล็ก
ทองคำแท้จะสังเกตได้จากการที่ไม่ถูกแม่เหล็กดูดจนติด ซึ่งหากขยับหรือถูกแม่เหล็กดูด แปลว่าภายในทองคำนั้นอาจมีโลหะอื่นสอดใส่ไว้อยู่แน่นอน
การชั่งน้ำหนัก
วิธีนี้จะต้องใช้เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอลที่แม่นยำสูง โดยสมาคมค้าทองคำกำหนดน้ำหนักของทองรูปพรรณความบริสุทธิ์ 96.5% แต่ละขนาดไว้ให้สามารถทดสอบได้ผ่านน้ำหนักมาตรฐาน ดังนี้
- ทอง 0.5 สลึง น้ำหนัก 1.89 – 1.9 กรัม
- ทอง 1 สลึง น้ำหนัก 3.79 – 3.8 กรัม
- ทอง 2 สลึง น้ำหนัก 7.58 – 7.6 กรัม
- ทอง 3 สลึง น้ำหนัก 11.37 – 11.4 กรัม
- ทอง 1 บาท น้ำหนัก 15.16 – 15.2 กรัม
- ทอง 2 บาท น้ำหนัก 30.32 – 30.4 กรัม
ใช้เล็บจิกหรือกัดบริเวณเนื้อทอง
ทองคำแท้จะมีคุณสมบัติความอ่อนตัวสูง ทำให้เกิดรอยบุบได้ง่าย หากใช้เล็บจิกหรือลองกัดเบาๆ ที่เนื้อทองจะยุบตัวลง ซึ่งจะทราบได้ทันทีว่าเป็นทองแท้ แต่วิธีนี้จะทำให้เสียรูปทรงทองคำไป จึงเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ
เช็ครอยที่ข้อต่อ
ทองแท้จากแตกต่างจากทองปลอม ที่มีสีทองโดยธรรมชาติ แต่ของปลอมจะใช้การชุบ ดังนั้นหากบริเวณไหนมีรอยเป็นขุยหรือหลุดลอกแปลว่าเป็นทองปลอมแน่นอน
เพื่อความปลอดภัยควรเช็คผ่านผู้เชี่ยวชาญชัวร์ที่สุด
แนวทางการเช็คทองคำแท้หรือปลอมตามที่ได้ แนะนำไว้ทั้งหมดนี้เป็นวิธีในการตรวจสอบแบบเบื้องต้นเท่านั้น เมื่อคุณได้ลองทดสอบด้วยวิธีการทั้งหมดตามที่กล่าวมานี้แล้วยังไม่ชัวร์แนะนำว่า ให้ลองปรึกษาร้านทองหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อ เข้ารับการตรวจสอบทองคำแท้ ว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะหากถูกโกง ไม่คุ้มเสียแน่นอนและตามตัวได้ยากอีกด้วย
ปัจจุบันตามร้านทองนั้น มีผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำมากมาย ซึ่งแต่ละท่านก็มีกระบวนการในการพิสูจน์ทองแท้ด้วยวิธีที่ แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ แต่ละท่านจะใช้วิธีไหน ซึ่งแน่นอนว่าต้องดีกว่าวิธีการพิสูจน์แบบที่เราแนะนำไว้ข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการทดลองหยดน้ำกรด ตะไบ เพื่อเช็คดูเนื้อใน หรือทดลองเผาไฟ หากเราทำเองและไม่ชำนาญจะไม่ทำการทดสอบเองได้
ซื้อขายทองคำกับร้านทองที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ตอนนี้ทุกท่านน่าจะทราบวิธีการตรวจเช็คทองคำกันบ้างแล้ว ซึ่งถือเป็นวิธีเบื้องต้นเพียงเท่านั้น แต่เหล่ามิจฉาชีพก็มักจะมีเล่ห์กลอื่นๆ ในการหลอกลวงคุณได้ต่างๆ นาๆ ดังนั้นจึงอย่าหลงกลเมื่อมีผู้เสนอขายทองคำให้ในราคาที่ถูกกว่าตลาด หรือถูกเกินจริง อย่าหวังเพียงของราคาถูกเพียงอย่างเดียว ควรตรวจเช็คให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจ่ายเงินทุกครั้ง
วิธีที่ดีที่สุด คือ การซื้อผ่านร้านทองที่เชื่อถือได้ เพราะจะมีใบรับประกันทองคำแท้ ซึ่งเป็นตัวการันตีและปลอดภัยที่สุด ใช้ขายต่อหรือจำนำในครั้งหน้าก็สะดวก และร้านทองคำมีผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการเช็คทองคำมากกว่าการที่เราตรวจเช็คเอง ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีเดียวที่แนะนำ และใช้การตรวจเช็คเองเป็นเพียงวิธีเบื้องต้นเท่านั้น
ทองคำ บริสุทธิ์ ของแท้ ปลอม แตกต่างกันอย่างไร เช็คด้วยตัวเองแบบไหนได้บ้าง Read More »